ข้ามไปที่เนื้อหาหลัก
พรบ.การศึกษาแห่งชาติ
- 1. พระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ
- 2. พระราชบัญญัติ การศึกษาแห่งชาติ พ.ศ. ๒๕๔๒ แก้ไขเพิ่มเติม (ฉบับที่ ๒) พ.ศ. ๒๕๔๕ และ (ฉบับที่ ๓) พ.ศ. ๒๕๕๓ พระบาทสมเด็จพระปรมินทร์มหาภูมิพลอดุลยเดช มีพระบรมราชโองการโปรดเกล้าฯ ให้ประกาศว่า โดยที่เป็น การสมควรให้มีกฎหมายว่าด้วยการศึกษาแห่งชาติ จึงทรงพระ กรุณาโปรดเกล้าฯ ให้ตราพระราชบัญญัติขึ้นไว้โดยคาแนะนา และยินยอมของรัฐสภา เมื่อวันที่ 14 สิงหาคม 2542
- 3. การศึกษา ตาม พรบ.การศึกษาแห่งชาติ คือ “การศึกษา” หมายความว่า กระบวนการเรียนรู้เพื่อความเจริญงอก งามของบุคคลและสังคมโดยการถ่ายทอดความรู้ การฝึก การอบรม การสืบสานทางวัฒนธรรม การสร้างสรรค์จรรโลงความก้าวหน้า ทางวิชาการ การสร้างองค์ความรู้อันเกิดจากการจัดสภาพแวดล้อม สังคม การเรียนรู้และปัจจัยเกื้อหนุนให้บุคคลเรียนรู้ตลอดชีวิต
- 4. หมวด 1 บททั่วไป ความมุ่งหมายและหลักการ มาตรา 6-7 พระราชบัญญัติฉบับนี้มีเจตนารมณ์ที่ต้องการเน้นย้าว่าการ จัดการศึกษาต้องเป็นไป เพื่อพัฒนาคนไทยให้เป็นมนุษย์ที่สมบูรณ์ ทั้งร่างกาย จิตใจ สติปัญญา ความรู้ และคุณธรรม มีจริยธรรมและ วัฒนธรรมในการดารงชีวิตสามารถอยู่ร่วมกับผู้อื่นได้อย่างมี ความสุข
- 5. หมวด 2 สิทธิและหน้าที่ทางการศึกษา 1.บุคคลมีสิทธิและโอกาสเสมอกันในการรับการศึกษาขั้น พื้นฐานไม่น้อยกว่าสิบสองปี ที่รัฐต้องจัดให้อย่างทั่วถึง และมี คุณภาพโดยไม่เก็บค่าใช้จ่าย 2.บุคคล ซึ่งมีความบกพร่องทางด้านต่าง ๆ หรือมีร่างกาย พิการ หรือมีความต้องการเป็นพิเศษ หรือผู้ด้อยโอกาสมีสิทธิและ โอกาสได้รับการศึกษาขั้นพื้นฐานเป็นพิเศษ 3.บิดามารดา หรือผู้ปกครองมีหน้าที่จัดให้บุตรหรือบุคคล ในความดูแลได้รับการศึกษาทั้งภาคบังคับ และนอกเหนือจากภาค บังคับตามความพร้อมของครอบครัว
- 6. หมวด 3 ระบบการศึกษา มาตรา 15-21 สถานศึกษาจัดได้ทั้งสามรูปแบบ และให้มีการเทียบโอนผลการ เรียนที่ผู้เรียนสะสมไว้ระหว่างรูปแบบเดียวกันหรือต่างรูปแบบได้ไม่ว่าจะ เป็นผลการเรียนจากสถานศึกษาเดียวกันหรือไม่ก็ตาม การศึกษาใน ระบบ การศึกษา ตาม อัธยาศัย การศึกษา นอกระบบ
- 7. การศึกษาในระบบ การศึกษา ขั้นพื้นฐาน การศึกษา ระดับอุดมศึกษา ระดับต่ากว่าปริญญา ระดับปริญญา ไม่น้อยกว่า 12 ปี ระดับและประเภทเป็นไป ตามกฎหมายกำหนด
- 8. การศึกษา ภาคบังคับ 9ปี ย่างปีที่ 7 ถึงย่างปีที่ 16 ยกเว้นสอบได้ ปีที่ 9 การนับอายุ เป็นไป ตามกฎกระทรวง
- 9. สถานศึกษา สถานพัฒนาปฐมวัย โรงเรียน ศูนย์การรียน สถานที่เรียนที่หน่วยงาน จัดการศึกษานอกโรงเรียน ประชาชนเป็นผู้จัด โรงเรียนของรัฐ เอกชน โรงเรียนสังกัดสถาบัน พุทธศาสนา หรือศาสนา อื่น -ศูนย์เด็กเล็กศูนย์พัฒนาเด็ก เล็ก หรือสถานพัฒนาเด็ก ปฐมวัยที่เรียกชื่ออย่างอื่น
- 10. หมวด 4 แนวการจัดการศึกษา มาตรา 22-30 - การจัดการศึกษาต้องยึดหลักว่า ผู้เรียนมีความสาคัญที่สุด ผู้เรียนทุกคนสามารถเรียนรู้และพัฒนาตนเองได้ดังนั้น กระบวนการจัดการศึกษาต้องส่งเสริมให้ผู้เรียน ได้พัฒนาตาม ธรรมชาติและเต็มตามศักยภาพ - การจัดการศึกษาทั้งสามรูปแบบในหมวด 3 ต้องเน้นทั้ง ความรู้ คุณธรรม และกระบวนการเรียนรู้ ในเรื่องสาระความรู้
- 11. หมวด 5 การบริหารและการจัดการศึกษา มาตรา 33-46 ส่วนที่ 1 การบริหารและการจัดการศึกษาของรัฐ 1.ระดับชาติ ให้มีกระทรวงการศึกษา ศาสนา และวัฒนธรรม มีอานาจ หน้าที่ กากับดูแลการศึกษาทุกระดับและทุกประเภท รวมทั้ง การ ศาสนา ศิลปะและวัฒนธรรม กระทรวง มีองค์กรหลักที่เป็นคณะ บุคคลในรูปสภาหรือ คณะกรรมการสี่องค์กร คือ
- 12. โครงสร้างกระทรวง 4 องค์กร หลัก สภา การศึกษา คณะกรรมการ การศึกษาขั้น พื้นฐาน คณะกรรมการ การอาชีวศึกษา คณะกรรมการ การอุดมสึกษา
- 13. หมวด 6 มาตรฐานและการประกันคุณภาพการศึกษา ประกัน คุณภาพ ภายใน ประกันคุณภาพ ภายนอก - เป็นส่วนหนึ่งของ กระบวนการบริหาร - รายงานต่อต้นสังกัด เผยแพร่ต่อสาธารณชน -โดยสานักงานรับรองและ ประเมินคุณภาพการศึกษา (สมศ) -อย่างน้อยหนึ่งครั้งทุก ห้าปี
- 14. หมวด 7 ครู คณาจารย์ และบุคลากรทางการศึกษา มาตรา 42-57 ให้มีองค์กรวิชาชีพครู ตามมาตรา 53 ทาให้เกิด พรบ. สภาครูและ บุคลากรทางการศึกษา 2546 ให้มีองค์กรกลางบริหารงานบุคคลของข้าราชการครู ตามมาตรา 54 ทาให้เกิด พรบ. ระเบียบข้าราชการครูและบุคลากรทางการศึกษา ครู ผู้บริหารสถานศึกษา ผู้บริหารการศึกษาและบุคลากรทางการ ศึกษาอื่นทั้งของรัฐและเอกชน ต้องมีใบอนุญาตประกอบวิชาชีพ ทั้งนี้ ยกเว้น ผู้ที่จัดการศึกษาตามอัธยาศัย จัดการศึกษาในศูนย์การ เรียน วิทยากรพิเศษ และผู้บริหารการศึกษาระดับเหนือเขตพื้นที่การศึกษา
- 15. หมวด 8 ทรัพยากรและการลงทุนเพื่อการศึกษา มาตรา 48-62 ให้มีการระดมทรัพยากรและการลงทุนด้านงบประมาณ การเงิน และทรัพย์สิน ทั้งจากรัฐ องค์กร ปกครองส่วนท้องถิ่น บุคคล ครอบครัว ชุมชน องค์กรชุมชน เอกชน องค์กรเอกชน องค์กรวิชาชีพ สถาบันศาสนา สถานประกอบการ สถาบันสังคมอื่นและต่างประเทศมาใช้จัดการศึกษา
- 16. หมวด 9 เทคโนโลยีเพื่อการศึกษา หน้าที่ของรัฐ จัดสรรคลื่นความถี่ สื่อตัวนาและโครงสร้าง พื้นฐานที่จาเป็นต่อการ ส่งวิทยุกระจายเสียง โทรทัศน์ ส่งเสริมให้มีการวิจัย และพัฒนา การผลิต และพัฒนาเทคโนโลยี ส่งเสริมและสนับสนุน ในการผลิตและพัฒนา แบบเรียน ตารา สื่อ พัฒนาบุคลากรด้าน ผู้ผลิต และผู้ใช้ ผู้เรียนมีสิทธิได้รับ การพัฒนาขีด ความสามารถใน การใช้เทคโนโลยี
- ข้อดี
- 1.มีเสียงที่ชัดเจนมีการยกตัวอย่าง
- 2.เมื่อดูคลิปแล้วสามารถเข้าใจได้ง่ายขึ้น
ข้อเสีย
- 1.ไม่มีภาพจริงมายกตัวอย่างอธิบาย
- 2.ไม่มีการใช้ภาพกาตูนเพื่อให้น่าสนใจ
จัดทำโดย
นาย วีระพงศ์ หมาดเส็ม
เลขที่37 รปศ.594
เสนอ
อาจารย์ ปนัดดา ทรัพย์สมาน
รายวิชา ความรู้เบื้องต้นเกี่ยวกับกฎหมายทั่วไป
ความคิดเห็น
แสดงความคิดเห็น